24 พ.ย. 2023
3 นาที
24 พ.ย. 2023
3 นาที
24 พ.ย. 2023
3 นาที
ฮ่องกง (Hong Kong) เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางในการเที่ยวต่างประเทศ ที่ใกล้ประเทศไทย โดยใช้เวลาในการเดินทางออกจากกรุงเทพฯ เพียงแค่ 3 ชั่วโมงเท่านั้น ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งในการเที่ยวต่างประเทศที่มีความสะดวกสบายมากๆ มีกิจกรรมให้เราได้เอ็นจอยกันครบทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็น ไหว้พระ ช้อปปิ้ง มุมถ่ายรูปชมเมืองสุดชิค ชอบแบบไหนก็จัดได้หมด ครั้งนี้กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ และ เพจ Lazy Coup จึงอยากชวนทุกคนจูงมือคนรักออกมาผจญภัยกัน และทริปนี้ก็ใช้ระยะเวลาสั้นๆ เพียง 4 วัน 3 คืนเท่านั้น ถ้าพร้อมแล้วเราออกไปสนุกด้วยกันเลย!
สำหรับการเดินทางมาเที่ยว "ฮ่องกง" ในครั้งนี้ สามารถบินตรงจากกรุงเทพฯ มาลงที่ "Hongkong" ได้เลย ซึ่งเราจะใช้เวลาโดยประมาณ 3 ชั่วโมงเท่านั้น เป็นการเดินทางมา "เที่ยวต่างประเทศ" ที่ใช้เวลาน้อยมากจริงๆ แถมสายการบินก็มีให้เลือกใช้บริการหลากหลายสาย แต่รอบนี้ขอแนะนำให้บินตรงกับ "สายการบินไทย" เป็นพิเศษ เพราะเป็น Full Service ที่ราคาประทับใจมากๆ นอกจากนี้ยังสามารถจองตั๋วบินลัดฟ้าให้คุ้มสุดๆ ด้วย "บัตรเครดิตกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ วีซ่า แพลทินัม" และ "เอ็กซ์ยู บัตรเครดิต ดิจิทัล" เพียง "จองตั๋วเครื่องบิน" กับสายการบินที่ร่วมรายการตามเงื่อนไข และลงทะเบียนก่อนทำรายการผ่านแอป UCHOOSE ก็ได้รับเครดิตเงินคืนแบบฟินๆไปเลย เพิ่มเติมคลิก เป็นยังไง! นี่แค่ออกตัวก็คือเซฟเงินในกระเป๋าได้แล้วนะ
การ "เที่ยวฮ่องกง" ด้วยตนเองในครั้งนี้ สามารถใช้วิธีการเดินทางโดยรถไฟใต้ดิน (MTR) เป็นหลัก ซึ่งรถไฟใต้ดินมีหลากหลายสาย หลากหลายสถานี และอยู่ติดกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เรียกได้ว่าเป็นการเดินทางที่สะดวก รวดเร็วมากๆ โดยแนะนำให้ซื้อบัตรออกโทปุส (Octopus) ที่เป็นบัตรเติมเงินเอาไว้ติดตัว เพราะเพียงแตะบัตรก็สามารถตัดเงินขึ้นรถไฟฟ้าได้สะดวกสบาย อีกทั้งสามารถใช้ในรถบัส (Bus) รถแท็กซี่ (Taxi) ไปจนถึงการซื้อของตามร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารต่างๆ ด้วยเช่นกัน
ล่าสุดตอนนี้มีแอปพลิเคชัน (Application) ของ ออกโทปุส (Octopus) ในโทรศัพท์มือถือแล้ว ทำให้เราสามารถเช็คยอด และเติมเงิน โดยจ่ายผ่านบัตรเครดิต "บัตรเครดิตกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ วีซ่า แพลทินัม" หรือ "เอ็กซ์ยู บัตรเครดิต ดิจิทัล" เพื่อสะสมคะแนนของการใช้จ่ายเพิ่มเติมได้อีกด้วย เกริ่นมาเยอะแล้ว เราไปเริ่มเที่ยวใน "Hongkong" กันเลยดีกว่า
เริ่มต้นกันที่แลนด์มาร์คสุดฮิตติดชาร์ตตลอดกาลอย่าง "Choi Hung Estate" สนามบาสที่มีวิวคู่กับตึกสูงไล่เฉดสีไว้สวยงาม หรือที่ใครหลายคนเรียกว่า "ตึกสายรุ้ง" บอกได้คำเดียวว่าใครที่มา "ฮ่องกง" ไม่ควรพลาดมุมนี้เลยจริงๆ เพราะไม่ว่าจะเซลฟี่มุมไหนก็น่ารักสดใสไปหมด และที่นี่ยังเป็นที่ที่มีชื่อเสียงมากๆ ใน IG อีกด้วย
โดยพื้นที่ตรงนี้จะอยู่บนชั้นดาดฟ้าของอาคารจอดรถ สามารถนั่งรถไฟใต้ดิน MTR ลงที่สายสีเขียวสถานี Choi Hung ทางออก C4 ใช้เวลาเดินต่ออีกแป๊บเดียวก็ถึงที่หมายแล้ว ซึ่งช่วงเวลาที่แนะนำให้มาถ่ายภาพ แนะนำให้เดินทางมาในช่วงเก้าโมงเช้า จะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด แต่เนื่องจากอาคารที่อยู่อาศัยนี้ มีแผนที่จะปรับปรุงใหม่ในปี 2024 ใครอยากได้ภาพบรรยากาศนี้ ต้องรีบไปถ่ายรูปกันแล้ว และที่สำคัญไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้ามาถ่ายรูปเล่น
ถัดมาก็ไปเช็คอินกันต่อที่ "Lok Wah South Estate Car Park" อีกหนึ่งพิกัดที่มีชื่อเสียงในอินสตาแกรม เป็นกรอบเฟรมวงกลมซ้อนไปซ้อนมา สามารถถ่ายรูปสนุกๆ เล่นมุมมองความลึกของกรอบวงกลมนี้ได้ อย่างเช่นการแยกร่างวางคนในระยะต่างๆ ของกรอบวงกลม หากใครที่ต้องการถ่ายรูปสนุกๆ ก็สามารถวางแผนการเดินทางไปเที่ยวต่อจาก "Choi Hung Estate" ด้วยการนั่งรถบัสสาย 28 มาสุดสายได้เลย
เนื่องจาก "Choi Hung Estate" ที่เป็นพิกัดสนามบาสสีรุ้งมีแนวโน้มที่จะปรับปรุงอาคารในระยะเวลาอันใกล้ หากใครที่ต้องการถ่ายรูปเล่นกับสนามบาสอื่นๆ คู่กับตึกมุมสูงในย่าน Hang Hau Station ยังมีสนามบาสที่น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยสนามบาสแรกอยู่บนชั้นดาดฟ้าของ "Ming Tak Shopping Centre" เป็นสนามบาสโทนสีส้มเขียว พร้อมกับอาคารสูงสีเขียวสดใส ที่ถ่ายรูปออกมาได้สนุก และยังไม่มีค่าเข้าชมเช่นกัน การเดินทางมายัง Ming Tak Shopping Centre แนะนำให้ลง "สถานี Hang Hau Station" และออกทางออก B1
อีกหนึ่ง "สนามบาสสีพาสเทล" ที่รายล้อมไปด้วยตึกสูงสีลูกกวาดชมพูฟ้า คือ "Decathlon Tseung Kwan O" โดยจะอยู่ในพื้นที่ใกล้ๆ กันกับ Ming Tak Shopping Centre สามารถเดินมาเที่ยวต่อกันได้ง่าย แต่หากใครต้องการมาเพียงสนามบาสแห่งนี้ ต้องลงที่ "สถานี Tseung Kwan O Station" ออกทางออก C
"Hongkong" มีสนามบาสบนดาดฟ้าหลากหลายสนามบาสมาก โดยเข้าชมฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย เป็นการจัดสรรพื้นที่ทำกิจกรรม และดูแลสุขภาพของชาวฮ่องกงได้ดีมากๆ และใครที่ต้องการถ่ายรูปคู่กับคนรัก ก็สามารถมาเที่ยวเก็บภาพได้น่ารักมากจริงๆ
ช่วงเย็นแนะนำให้มาที่ "Hong Kong Cultural Centre" จุดนี้จะเป็นศูนย์วัฒนธรรม มีการจัดคอนเสิร์ต รวมถึงอาร์ตแกลเลอรีที่ผลัดเปลี่ยนกันไปในแต่ละเทศกาล อาคารจะมีรูปทรงโมเดิร์นดีไซน์สวยแปลกตา พร้อมช่องแสงที่เล่นแสงเงาสวยงามมาก การเดินทางมายัง Hong Kong Cultural Centre สามารถลง "MTR สถานี Tsim sha Tsui" และออกทางออก E
"Victoria Harbour" นั้นอยู่ติดกับ Hong Kong Cultural Centre สามารถเดินมาเที่ยวชมบรรยากาศของอ่าววิคตอเรีย พื้นที่ริมน้ำที่โด่งดัง พร้อมที่นั่งชมพระอาทิตย์ตกสวยๆ ที่เรียกได้ว่าโรแมนติกและเหมาะมากๆ ในการจูงมือคนรักมาเดทจริงๆ Victoria Harbour หลายๆ คนเรียกว่าเป็นอัญมณีเม็ดงามแห่งฮ่องกง ที่เปล่งแสงสีสันสวยงามในยามค่ำคืน เป็นอีกหนึ่งในภูมิทัศน์ที่สวยงามของ "ฮ่องกง"
เริ่มต้นวันที่สอง กับถนนสตรีทอาร์ตสุดคลาสสิคของ "ฮ่องกง" ในย่าน Hollywood Road ที่เป็นเส้นถนนที่มีการวาดรูปน่ารักๆ หลากหลายมุมให้ถ่ายรูป โดยมุมนี้จะมีชื่อว่า "Graham Street Mural" เป็นกำแพงตึกสีฟ้าที่วาดรูปอาคารต่างๆ ของฮ่องกงไว้สวยงาม ซึ่งการเดินทางมายังที่นี่ แนะนำให้นั่งรถไฟใต้ดินมาลง "สถานี Sheung Wan Station" แล้วออกทางออก A2
เอาหล่ะ! บอกจุดเช็คอินมาหลายที่แล้ว ถึงเวลาขายของกันสักนิด สำหรับใครที่มีแพลน "เที่ยวต่างประเทศ" หรือ "ชอบช้อปปิ้งพรีออเดอร์" เป็นประจำอยู่แล้ว ขอแนะนำตัวช่วยสุุดปังที่จะช่วยเซฟมันนี่ในกระเป๋าทุกการใช้จ่ายอย่าง "บัตรเครดิตกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ วีซ่า แพลทินัม" เป็นอะไรที่ควรมีมากๆ เพราะมีโปรโมชั่นและฟีเจอร์ที่เหมาะสำหรับทุกคนไม่ว่าจะเป็น
.
1. "0% สั่งได้ทุกอย่าง" เวลาที่เรารูดค่าใช้จ่ายผ่านบัตรขั้นต่ำ 500 บาทขึ้นไป / เซลล์สลิป และรวมยอดแบ่งชำระเริ่มต้น 3,000 บาทขึ้นไป ก็สามารถเปลี่ยนเป็นผ่อนชำระ 0% นาน 3 เดือน ได้เลย (ไม่มีดอกเบี้ยเกิดขึ้นสักบาท) เพิ่มเติมคลิก
2. "เที่ยวฟินทั่วโลก" กิน เที่ยว ช้อป หรือช้อปออนไลน์ เป็นสกุลเงินต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นจากร้านค้า, บริการในต่างประเทศ หรือจากเว็บไซต์ต่างประเทศเท่านั้น ครบตามเงื่อนไขที่กำหนด รับแคชแบ็คสูงสุด 30,000 บาท* เพิ่มเติมคลิก
3. "บินคุ้มทุกมุมโลก" บินไกลแบบ Full Service จองตั๋วเครื่องบินกับสายการบินที่ร่วมรายการ รับแคชแบ็คเงินคืนสุดคุ้มสูงสุด 12,000 บาท* เพิ่มเติมคลิก
และถึงแม้ว่าใครที่ไม่ได้ไป "เที่ยวเมืองนอก" บัตรนี้ใช้ในประเทศก็ยังตอบโจทย์เรื่อง "Cashback ยืนหนึ่ง" เหมือนเดิม มีโปรโมชั่นส่วนลด เครดิตเงินคืนแบบครอบคลุมแทบทุกหมวดในชีวิตให้เราได้เอ็นจอยกันตลอดทั้งปี เพิ่มเติมคลิก แถมฟีเจอร์ "0% สั่งได้ทุกอย่าง" ก็ยังช่วยให้เราสามารถบริหารเงินได้คล่องตัวมากขึ้นด้วยเช่นกัน
"Man Mo Temple" เป็นวัดที่มีชื่อเสียง และมีหลายแหล่งใน "ฮ่องกง" ซึ่งเรามาที่ย่าน Sheung Wan เพราะใกล้กับสถานที่เที่ยวหลายๆ แห่งที่เราจะไปกันในวันนี้ นอกจากนี้ยังเป็น "วัดหมั่นโหมว" ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดด้วยนั่นเอง สำหรับ "Man Mo Temple" เป็นวัดที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการเรียน การงาน การสอบเลื่อนขั้นต่าง หากใครที่สนใจมาขอความสิริมงคล สามารถมาไหว้ด้วยขดธูปขนาดใหญ่ได้เลย ใครที่ต้องการมามูที่นี่ สามารถมาที่ "สถานี Sheung Wan" และออกทางออก A2 หรือสามารถเดินเท้ามาจาก Graham Street Mural ได้เช่นกัน
เมื่อเดินออกมาจาก "วัดหมั่นโหมว" อีกหนึ่งพิกัดถ่ายรูปยอดนิยม คือ ร้าน "Yue Po Chai Antique" ด้วยกำแพงกระเบื้องเล็กโทนสีแดงเขียว พร้อมกรอบวงกลมและภาษาจีน จึงทำให้จุดนี้กลายเป็นมุมยอดฮิตใน Instagram ที่ใครมาถึง "Hongkong" แล้วต่างก็ต้องแวะมา
ปิดท้ายวันที่สองด้วยการมาเที่ยวชมอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสวยๆ ของ "ฮ่องกง" กับ "ชิงช้าสวรรค์ฮ่องกง" (Hong Kong Observation Wheel) ชิงช้าที่มีความสูงถึง 60 เมตร ตั้งอยู่ในวิว "อ่าววิคตอเรีย" เป็นจุดที่ชมวิวเมืองฮ่องกงได้โรแมนติกมากๆ พิกัดนี้จะอยู่ใกล้กับสถานี Hong kong Station
สำหรับเช้าวันสุดท้าย แนะนำให้ตื่นมาแต่เช้าตรู่นั่งรถไฟใต้ดินมาเที่ยวที่ "Yick Fat" ที่เป็นจุดท่องเที่ยวยอดฮิตมากๆ เพื่อไม่ต้องเข้าแถวในการถ่ายภาพ โดยการเดินทางมาที่ "Yick Fat" ก็จะต้องนั่งมาลงที่ "สถานี Tai Koo Station" ซึ่งเป็นสถานีที่สวยมากๆ เพื่อนๆ สามารถมาถ่ายรูปเล่นในสถานีก่อนได้เลย
ตึก "Yick Fat" เป็นตึกที่มีชื่อเสียงโด่งดังจากฉากในหนังเรื่อง Tranformer โดยเป็นตึกที่อยู่อาศัยของชาวฮ่องกงจริงๆ และมีเอกลักษณ์สีสันที่สวยงามวินเทจ โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตรงส่วนนี้จะไม่มีค่าเข้าชมในการเข้ามาถ่ายภาพ แต่จะห้ามส่งเสียงดังเพื่อไม่ให้รบกวนคนที่อยู่อาศัย
อีกหนึ่งไอเท็มเด็ดที่ภูมิใจนำเสนอมากๆ นั่นก็คือ "เอ็กซ์ยู บัตรเครดิต ดิจิทัล" บัตรเครดิตน้องใหม่ล่าสุด! ที่ฟีเจอร์เจ๋งเด็ดตอบโจทย์คนชอบช้อปออนไลน์มากๆ ไม่ว่าจะเป็น
1. "0% สั่งได้ทุกอย่าง" เวลาที่เรารูดใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งในและต่างประเทศ สะสมรวมตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป ทั้งในและต่างประเทศ ก็สามารถเปลี่ยนเป็นผ่อนชำระ 0% นาน 6 เดือน ได้เลย (ไม่มีดอกเบี้ยเกิดขึ้นสักบาท) เพิ่มเติมคลิก
2. "โค้ดส่วนลดแจกทุกเดือน" ฟินทุกเดือนไปกับโค้ดส่วนลดบนแอปช้อปปิ้งออนไลน์ชั้นนำ ไม่จำเป็นต้องรอช่วง Double Day แล้ว ไม่ว่าจะเป็น Shopee หรือ Lazada เพิ่มเติมคลิก
3. "พอยท์แลกแคชแบ็ค สูงสุด 18%" บัตรเดียวที่ปังสุดบนโลกออนไลน์ ครอบคลุมหลากหลายไลฟ์สไตล์ตลอดปี ผ่าน "บัตรเครดิต XU" ใช้คะแนนสะสมแลกรับเครดิตเงินคืนสุดคุ้ม สูงสุด 18% ง่ายๆ บนแอป UCHOOSE เพิ่มเติมคลิก
4. "ประกันการซื้อสินค้าออนไลน์" หมดกังวลเรื่องการซื้อของออนไลน์ ไม่ได้ของ ของไม่ครบ ของเสียหาย ด้วยแผนประกันการซื้อสินค้าออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์และ Payment Gateway คุ้มครองสูงสุด 20,000 บาทต่อปี* เพิ่มเติมคลิก
แต่...ความเริ่ดของบัตรนี้ไม่ได้หมดแค่นี้เท่านั้นนะ แม้ว่าเราจะไม่ได้ "ช้อปออนไลน์" เราก็สามารถฟินไปกับโปรโมชั่นอีกหลากหลายหมวด ได้ทั้งแคชแบ็ค ส่วนลด กันแบบยาวๆ เพิ่มเติมคลิก และถ้าเราช้อปหนักเกินไปกลัวจ่ายไม่ไหว ก็ไม่ต้องกังวลเลย เพราะฟีเจอร์ "0% สั่งได้ทุกอย่าง" จะเป็นตัวช่วยให้เราสามารถเมเนจเงินในกระเป๋าให้ได้ดีมากยิ่งขึ้น
หากเรามาถ่ายรูปที่ตึก "Yick Fat" ตั้งแต่เช้า แน่นอนว่าต้องหาร้านคาเฟ่น่ารักๆ ไว้พักเหนื่อยกัน คือ "% Arabica" ตรงนี้ตั้งอยู่ในบริเวณ "Yick Fat" เลยนั่นเอง และด้วยความที่ Yick Flat เป็นมุมยอดฮิตมากๆ แนะนำให้มาช่วงเช้า เพราะช่วงบ่ายคนจะเข้าแถวเพื่อถ่ายภาพกันเยอะมาก อาจจะต้องใช้เวลารอเพื่อถ่ายรูปเป็นชั่วโมง ดังนั้นตื่นมาเที่ยวที่นี่พร้อมจิบกาแฟแก้วโปรดเป็นอะไรที่ดีต่อใจเลย
การเที่ยวของวันนี้ ไม่ได้ไปเที่ยวหลายสถานที่สักเท่าไหร่ เพราะเน้นเก็บแรงเอาไว้เดิน Trekking ในช่วงเย็น กับ "Braemar Hill" โดยจุดนี้เรานั่งแท็กซี่ไปลงที่ St. Joan of Arc Secondary School แล้วเดินต่อ 15 - 20 นาทีเท่านั้น ในพื้นที่ของ Braemar Hill จะเป็นภูเขาสูง ที่เห็นวิวเมืองฮ่องกงในยามเย็นได้สวยงาม โดยแนะนำจุดลับๆ ที่ถ่ายรูปได้สวย คือ "Sir Cecil's Ride" จะเดินเข้ามาลึกกว่าปกติ และมีการขึ้นเขาอีกเล็กน้อย ก็จะพบกับจุดชมวิวก้อนหินที่ให้เราไปนั่งถ่ายรูปชมวิวสวยๆ ได้นั่นเอง
สำหรับทริปนี้ เป็น Travel Guide ของการมาเที่ยวที่ "ฮ่องกง" คิดว่าแพลนตรงนี้เป็นจุดที่เป็น Destination ของคนไทยหลายๆ คนที่อยากมา "เที่ยวต่างประเทศ" ได้ในเวลาสั้นๆ ค่ะที่เราใช้จ่ายทั้งหมดจริงผ่าน "บัตรเครดิตกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ วีซ่า แพลทินัม" และ "บัตรเครดิต XU" เพราะสามารถเปลี่ยนยอดรูดเต็มเป็นการผ่อนชำระ "0% นาน 3 เดือน*" แบบ Smart ทุกการใช้ง่ายๆ เพียงเลือกยอดที่ต้องการผ่อนผ่านแอป UCHOOSE ได้ด้วยตัวเอง และยังได้ Cash Back เงินคืนทุกเดือนแบบคุ้มๆ ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์เลย เพิ่มเติมคลิก ใครสายเที่ยวก็ต้องพกบัตรนี้เอาไว้ไปเที่ยวด้วยแล้วน้า
ส่วนใครที่ยังไม่มี "บัตรเครดิต" อ่านรีวิวในทริปนี้แล้วรู้สึกว่าบัตรนี้แหละที่ควรมีกระเป๋า แค่มีรายได้ประจำตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไป ก็ "สมัครบัตรเครดิตออนไลน์" กันได้แล้วนะ และขอแนะนำช่องทางใหม่สมัครผ่านแอป UCHOOSE สมัครง่าย อนุมัติไว พร้อมติดตามสถานะผ่านแอปได้เลย แถมช่วงนี้ยังมีโปรแรกเข้าด้วย เอาเป็นว่าถ้าอยากได้โปรโมชั่นดีๆ ก็อย่าลืมใช้จ่ายผ่าน "บัตรเครดิตกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ วีซ่า แพลทินัม" และ "เอ็กซ์ยู บัตรเครดิต ดิจิทัล" การันตีว่าคุ้มอย่าบอกใครเลยแหละ
ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี
3 ก.ย. 2024
127658
7 พ.ย. 2024
96446
20 พ.ค. 2024
45477