19 ธ.ค. 2025
3 นาที
19 ธ.ค. 2025
3 นาที
19 ธ.ค. 2025
3 นาที

"ลี่เจียง" (Lijiang) ประเทศจีน กำลังกลายเป็นหนึ่งใน เมืองท่องเที่ยวยอดฮิตปี 2025 ที่หลายคนต้องมีติดลิสต์ ด้วยเสน่ห์ของ ภูเขาหิมะมังกรหยก, ทะเลสาบสีน้ำเงิน Blue Moon Valley, และ เมืองโบราณลี่เจียง ที่ยังคงกลิ่นอายวัฒนธรรมเก่าแก่แบบดั้งเดิมเต็มเปี่ยม เดินเที่ยวหมู่บ้านเก่าที่สวยเหมือนหลุดเข้าไปในหนัง พร้อมแวะจิบกาแฟตามคาเฟ่น่ารัก ๆ หรืออิ่มอร่อยกับร้านอาหารท้องถิ่นที่มีให้เลือกเพียบ

ที่พักใน "Lijiang" ก็มีครบทุกสไตล์ ทั้งโฮเทลวิวภูเขา โฮมสเตย์สไตล์ทิเบต ไปจนถึงบูทีคโฮเทลบรรยากาศอบอุ่น ทำให้ลี่เจียงเป็น Destination ที่เหมาะทั้งเที่ยวคู่ เที่ยวครอบครัว และเที่ยวแบบชิล ๆ ที่สามารถสร้างความประทับใจให้ทุกคนได้อย่างแน่นอน

ครั้งนี้ กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ และ เพจ Lazy Coup ขอชวนทุกคนออกเดินทางไปผจญภัยด้วยกันที่ "ลี่เจียง" เมืองท่องเที่ยวยอดฮิตแห่งปีที่กำลังมาแรงสุด ๆ บอกเลยว่าการเดินทางสะดวกกว่าที่คิด เพราะสามารถ บินตรงจากไทยสู่ลี่เจียงได้แบบชิลล์ ๆ ใช้เวลาไม่นานก็ถึง หรือถ้าใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศก็สามารถ บินลงคุนหมิงแล้วนั่งรถไฟความเร็วสูงต่อมาลี่เจียง ได้เช่นกัน เดินทางง่าย มูดดี และเลือกเส้นทางได้ตามไลฟ์สไตล์เลย
"Lijiang" เหมาะกับคนที่อยากพักใจใกล้ชิดธรรมชาติสุด ๆ เพราะมีทั้งภูเขาหิมะสุดยิ่งใหญ่ ธารน้ำสีฟ้าแบบโปสการ์ด และวิวอลังการให้ถ่ายรูปไม่หยุดมือ เป็นทริปที่ได้ทั้งความสงบ ความสวย และความประทับใจครบในครั้งเดียว

สำหรับทริปนี้ต้องบอกเลยว่าเป็นการ "เที่ยวจีน" ที่ ไม่ต้องใช้เงินสดแม้แต่บาทเดียว เพราะเราสามารถใช้ Alipay จ่ายได้ทั้งหมด และที่สำคัญคือเราใช้วิธีผูก "บัตรเครดิตกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ วีซ่า แพลทินัม" เข้ากับแอปพลิเคชัน ทำให้ทุกค่าใช้จ่ายระหว่างเดินทาง ไม่ว่าจะเป็น รถไฟความเร็วสูง, ที่พัก, ร้านอาหาร, ค่าเช่าชุด, ช้อปปิ้งจุกจิก สามารถจ่ายผ่านบัตรใบนี้ได้ครบ จบ สะดวกมากกก เพิ่มเติมคลิก
1. "U CHALLENGE ภารกิจเที่ยวให้สุด" ไม่ว่าจะเป็นจองโรงแรม รถเช่า สายการบิน ซื้อประกันการเดินทาง และใช้จ่ายเป็นสกุลเงินต่างประเทศ เพียงมียอดใช้จ่ายสะสมครบ 3 หมวด ที่ร่วมรายการ ก็รับคะแนนสะสม 3 เท่า ไปเลย เพิ่มเติมคลิก
2. "จองทุกอย่างในทริปเที่ยว" จองที่พัก โรงแรม ผ่านแอปชั้นนำ Agoda, Traveloka, Trip.com, Booking.com จองเที่ยวบินกลับไทย ช้อปที่ King Power และ ประกันการเดินทาง ครบตามเงื่อนไข ก็รับเครดิตเงินคืน* เพิ่มเติมคลิก
3. "รับโปร On-Top เพิ่ม กรุงศรีช่วยคุณเปย์เซฟ" เที่ยวให้เซฟ เพียงมียอดใช้จ่ายในหมวดโรงแรมและห้องอาหารในโรงแรมทั่วไทย, สายการบินที่ร่วมรายการ, แอป / เว็บไซต์จองเที่ยว ครบตามเงื่อนไข ก็รับเครดิตเงินคืนเพิ่ม* เพิ่มเติมคลิก
4. "ช้อปคุ้ม รูดสกุลเงินต่างประเทศ" เที่ยวลาว กิน คาเฟ่ ช้อปของฝากที่ตลาดกลางคืนรูดจ่ายเป็นสกุล "เงินหยวน" ครบตามเงื่อนไข ก็รับเครดิตเงินคืน* เช่นกัน! เพิ่มเติมคลิก
5. "0% สั่งได้ทุกอย่าง" เวลาที่เรารูดค่าใช้จ่ายผ่านบัตรขั้นต่ำ 500 บาทขึ้นไป / เซลล์สลิป และรวมยอดแบ่งชำระเริ่มต้น 3,000 บาทขึ้นไป ก็สามารถเปลี่ยนเป็นผ่อนชำระ 0% นาน 3 เดือน ได้เลย (ไม่มีดอกเบี้ยเกิดขึ้นสักบาท) เพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดการเงินระหว่างทริปสุดๆ เพิ่มเติมคลิก

"Black Dragon Pool" (丽江黑龙潭) คือ สระน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ที่อยู่บริเวณด้านเหนือของ "Lijiang Old Town" ห่างจากเมืองเก่าเพียงประมาณ 1 - 2 กิโลเมตรเท่านั้น ที่นี่เป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่สวยที่สุดของลี่เจียง เพราะน้ำในสระใสจนเหมือนไข่มุก และสามารถสะท้อนภาพ "ภูเขาหิมะมังกรหยก" (Jade Dragon Snow Mountain) ได้ชัดเจนราวกับภาพในโปสการ์ด

ใครที่อยากได้บรรยากาศแบบเวทมนตร์สุด ๆ แนะนำให้มาในช่วงตั้งแต่เช้ามืด เพราะจะมีโอกาสได้เห็น "ภูเขาสีแดง" จากแสงแรกของวันสะท้อนยอดหิมะ พร้อมสายหมอกบาง ๆ ลอยเหนือผิวน้ำ เป็นวิวที่ทั้งสวย ทั้งสงบ และโรแมนติกมาก เหมาะกับคนชอบถ่ายรูปสุด ๆ
รอบสระยังเต็มไปด้วย "สถาปัตยกรรมจีนโบราณ" ทั้งสะพาน ศาลา และอาคารไม้ที่เข้ากันกับธรรมชาติอย่างลงตัว ทำให้เดินเล่นแล้วรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในฉากหนังจีนโบราณเลย ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสถานที่นี้ถึงเป็นแลนด์มาร์กยอดนิยมที่หลายคนตั้งใจมาจับจองมุมถ่ายภาพตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง

ที่สำคัญคือ สวนนี้เปิดให้เข้าตลอด และไม่มีค่าใช้จ่าย ทำให้มาได้ง่ายมาก จะมาเช้า มาบ่าย หรือมาเก็บภาพช่วงโกลเด้นอาวเวอร์ก็ยังได้บรรยากาศที่สวยแตกต่างกันไป

ขอยกให้เป็นหนึ่งใน โชว์ที่ประทับใจที่สุดในประเทศจีน กับการแสดงสุดอลังการ "Impression Lijiang" โชว์ที่ถ่ายทอดวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวยูนนานได้สวยมากแบบจับใจ จุดเด่นคือเวทีที่เป็น "ฉากสีแดง" กลางแจ้งขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ตรงเชิง "ภูเขาหิมะมังกรหยก" (Jade Dragon Snow Mountain) ที่โผล่เป็นฉากหลังแบบธรรมชาติ ทำให้ทุกซีนยิ่งใหญ่โดยไม่ต้องปรุงแต่งอะไรเพิ่ม

ความอลังการของโชว์อยู่ที่ "คนจริงทั้งหมด" ไม่ใช่ AI เพราะใช้นักแสดงหลายร้อยชีวิตเดิน วิ่ง เต้น ประสานเป็นแพตเทิร์นสวย ๆ ไปตามจังหวะดนตรี เกิดเป็นภาพรวมที่ตระการตาจริง ๆ ยิ่งมีเอฟเฟกต์ควันประกอบกับฉากเวทีสีแดง และวิวภูเขาหิมะด้านหลัง บอกเลยว่ายิ่งดูยิ่งว้าว เป็นโชว์ที่ทั้งทรงพลังและมีเสน่ห์มาก ชอบสุด ๆ
รอบการแสดง มีวันละ 2 รอบ แต่ละรอบใช้ระยะเวลาการแสดงประมาณ 1 ชั่วโมง
• 13.20 น.
• 14.50 น.

ถ้าใครอยากไปดูแบบสบายสุด แนะนำให้ จอง VIP Seat ผ่าน "Klook" ไปเลย เราจองได้ในราคา ประมาณ 9xx บาท แล้วจะมีแอด WeChat จากเอเจนต์เพื่อส่ง QR Code ให้เข้าชมได้ทันที ไม่ต้องรับบัตรจริงหน้างานให้เสียเวลา และย้ำอีกทีว่า ควรเลือก VIP Seat Only เพราะราคาแพงกว่าแค่ประมาณ 100 บาท แต่ได้สิทธิ์ที่คุ้มมาก เช่น
• ที่นั่งกลางเห็นชัดทุกมุม
• คนน้อย ไม่แออัด
• ได้น้ำดื่มฟรี
• มีทางเข้าแยก ไม่ต้องเบียดใคร
• ช่วงโชว์ "ม้าวิ่ง" เห็นใกล้แบบสุด
• มีห้องน้ำแยกให้ด้วย

"Lijiang Old Town" เป็นย่านเมืองเก่าที่ใครไปก็ต้องหลงรัก เพราะบรรยากาศเหมือนเดินอยู่ในโลกอีกใบ ถนนปูด้วยหินโบราณ สลับกับทางขึ้นลงเนินที่สูงต่ำไม่เท่ากัน ทำให้เวลาเดินเล่นมีความเพลินแบบไม่รู้ตัว ยิ่งมีลำธารใสไหลผ่านกลางเมือง พร้อมเสียงน้ำเบา ๆ นี่คือฟีลดีเกินต้าน สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้าตกแต่งสวย ๆ ทั้งดอกไม้ที่จัดวางแบบละมุน หรือไอน้ำฟุ้งๆ หน้าร้านที่ทำให้เมืองทั้งเมืองดูโรแมนติกขึ้นไปอีก บอกเลยว่าย่านนี้เดินแล้วเป็นเพลิดเพลินมากจริงๆ

พื้นที่ของ "Lijiang Old Town" ใหญ่มาก เดินได้ทั้งวันแบบไม่มีเบื่อ เพราะมีมุมซ่อนอยู่ทุกตรอก และยังเต็มไปด้วยงานฝีมือท้องถิ่น เช่น ผ้าทอ ผ้าปัก กระเป๋าผ้า รวมถึงเครื่องเงินทำมือที่เป็นเอกลักษณ์ของลี่เจียง เหมาะมากสำหรับซื้อเป็นของฝาก หรือซื้อสะสมเองก็เลิฟ ยังไม่หมด ภายในเมืองเก่ายังมีร้านอาหาร คาเฟ่ และบาร์ดี ๆ อยู่เยอะมาก ใครเป็นสายคอนเทนต์หรือสายเดินเล่นช้า ๆ ชมร้านสวย ๆ รับรองว่าตกหลุมรักแน่นอนค่ะ

ที่นี่เป็นย่านที่อยากให้เพื่อน ๆ เผื่อเวลาเยอะ ๆ เพราะยิ่งเดิน ยิ่งค้นพบมุมใหม่ ๆ และบรรยากาศดีจนไม่อยากรีบกลับเลย

ยกให้เป็นที่พักที่วิว "อลังการแบบจัดเต็ม" ที่สุดแห่งหนึ่งในลี่เจียงจริง ๆ กับ "Jinmao Purelax Lijiang, The Unbound Collection by HYATT" (丽江金茂隐逸酒店·凯悦臻选) โรงแรม 5 ดาวที่ออกแบบให้เหมือนหมู่บ้านจีนโบราณ แต่ผสานความพรีเมียมแบบไฮแอทได้อย่างลงตัว ที่สำคัญคือที่นี่สามารถชม "วิวภูเขาหิมะมังกรหยก" ได้แบบเต็มตาจากในที่พักเลย ช่วงเช้าเป็นช่วงที่สวยแบบต้องหยุดหายใจ เพราะแสงแรกของวันจะกระทบยอดเขาให้กลายเป็นสีแดงอุ่น ๆ มีหมอกลอยคลอเบา ๆ เป็นภาพที่ทั้งโรแมนติกและอลังการสุด ๆ มุมไหนก็ถ่ายรูปออกมาสวยหมดจริง ๆ

ในส่วนของห้องพักกว้าง สบาย อาหารเช้าหลากหลาย และบรรยากาศโดยรวมดีมาก ยิ่งถ้าเป็นสายถ่ายรูป บอกเลยว่าที่นี่คือสวรรค์ เพราะทุกโซนของโรงแรมถูกดีไซน์มาให้มุมสวยเต็มไปหมด

อีกจุดที่ทำให้ที่นี่น่ารักมากคือ น้อง ๆ สัตว์ที่เดินเล่นในพื้นที่โรงแรม ทั้งหงส์ดำที่ว่ายน้ำชิล ๆ น้องหมา ม้าแคระ และอัลปากาที่จะถูกปล่อยออกมาทักทายเป็นรอบ ๆ ทำให้เราถ่ายรูปคู่กับน้อง ๆ ได้แบบใกล้ชิด เป็นโมเมนต์ที่ประทับใจมาก ๆ

หนูยังไม่ค่อยเห็นคนไทยรีวิวที่นี่เยอะเท่าไหร่ แต่เราจองได้ในราคาแค่ ประมาณ 3,xxx บาท / คืน ถือว่าคุ้มมากสำหรับที่พักคุณภาพระดับนี้ในทำเลที่เห็น "ภูเขามังกรหยก" แบบตรง ๆ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งที่พักที่ดีงามเกินคาด และควรมานอนสักคืนจริง ๆ

"Baisha Ancient Town" (白沙古镇) เป็นอีกโซนเมืองเก่าที่หนูรู้สึกว่ามีเสน่ห์และ "ครึกครื้นแบบกำลังดี" มากกว่า Lijiang Old Town ค่ะ แนะนำให้มาเดินช่วงเย็น เพราะบรรยากาศจะอบอุ่นและมีชีวิตชีวามากที่สุด สองข้างทางเป็นบ้านเรือนไม้แบบเก่าตามสถาปัตยกรรมของ "ชนเผ่านาซี" (Naxi) ที่ยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมเอาไว้อย่างชัดเจน

ถนนหลักก็เต็มไปด้วยร้านงานฝีมือท้องถิ่น เช่น ร้านช่างแกะสลัก ร้านขายภาพเขียนแบบดั้งเดิม และร้านชาที่อบอวลด้วยกลิ่นใบชาใหม่ ๆ เดินผ่านแล้วรู้สึกผ่อนคลายมาก ในย่านนี้ยังมีเสียงเพลงเพราะ ๆ ลอยออกมาจากบาร์เล็ก ๆ ตลอดทาง ทำให้บรรยากาศดูอบอุ่นและโรแมนติกขึ้นไปอีก เหมาะกับการเดินช้า ๆ ซึมซับความเป็นหมู่บ้านโบราณแบบแท้จริง

ที่สำคัญเลยคือ "Baisha" มีคาเฟ่หลายร้านที่สามารถ ขึ้นไปถ่ายรูปบนหลังคา ได้ ซึ่งเป็นกิมมิกน่ารัก ๆ ของที่นี่ และถ้าวันไหนอากาศดี ฟ้าใส รับรองว่าเพื่อน ๆ จะได้เห็นวิว "ภูเขาหิมะมังกรหยก" แบบเต็ม ๆ จากบนหลังคาด้วย เป็นโมเมนต์ที่คุ้มค่ามาก โดยรวมคือเป็นย่านที่เดินแล้วรู้สึกชิล อบอุ่น และได้สัมผัสวิถีดั้งเดิมของลี่เจียงแบบชัดเจนมาก ๆ

"Three Mountains" (三座山) เป็นหนึ่งในคาเฟ่น่ารักประจำย่าน "เมืองเก่า Baisha" ที่อยากแนะนำมาก ๆ เพราะยังไม่ค่อยเห็นคนไทยพูดถึงกันเท่าไหร่ แต่บรรยากาศดีเกินคาด ตัวคาเฟ่มีพื้นที่กว้างมาก พอเดินผ่านประตูเข้ามาจะพบ สวนสไตล์จีนโบราณ ก่อนเลย ให้ฟีลนิ่ง สบาย และได้กลิ่นอายความเป็นหมู่บ้านดั้งเดิมของลี่เจียงแบบชัดเจน ช่วงบ่าย ๆ แสงที่ลอดเข้ามาตกกระทบลานหินและต้นไม้คือสวยมาก

ระหว่างที่เรานั่ง เจ้าของร้านเดินมาบอกอย่างเป็นกันเองว่า "ด้านบนสามารถขึ้นไปถ่ายรูปบนหลังคาได้นะ สวยมากค่ะ" หนูก็ไม่พลาดเดินขึ้นไปบนชั้นสองของบ้านไม้เก่า แล้วปีนขึ้นหลังคาตามคำแนะนำ ซึ่งต้องบอกเลยว่า ประทับใจมากจริง ๆ เพราะมุมบนหลังคาจะมองเห็นวิว "เมืองเก่า Baisha" แบบเต็ม ๆ และยังเห็นทิวเขาที่ทอดยาวอยู่ด้านหลังอย่างอลังการ เป็นภาพที่ทั้งเงียบสงบและสวยแบบเรียบง่าย แต่กินใจมาก

ถ้าเพื่อน ๆ มา "Baisha" หนูอยากให้แวะร้านนี้เลย ทั้งบรรยากาศดี มุมถ่ายรูปสวย และยังได้วิวแบบลับ ๆ ที่หลายคนยังไม่รู้ด้วย ยกให้เป็น hidden gem ประจำทริปนี้

ที่สำคัญ สายเที่ยวแบบเราห้ามพลาด ภารกิจ "U CHALLENGE ภารกิจเที่ยวให้สุด" ไม่ว่าจะเป็นจองโรงแรม รถเช่า สายการบิน ซื้อประกันการเดินทาง และใช้จ่ายเป็นสกุลเงินต่างประเทศ เพียงมียอดใช้จ่ายสะสมครบ 3 หมวด ที่ร่วมรายการ ก็รับคะแนนสะสม 3 เท่า ไปเลย เพิ่มเติมคลิก และเพื่อให้การใช้จ่ายคุ้มแบบไม่มีภาระ อยากย้ำว่า ใช้เท่าที่จำเป็น และชำระคืนเต็มจำนวนภายในกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปีน้า

"Club Med Lijiang" (中海俱乐部 丽江度假村) คือสวรรค์ของสายพักผ่อนตัวจริง โดยเฉพาะคนที่อยาก "พักแบบไม่ต้องคิดอะไรเพิ่ม" เพราะที่นี่เป็น "All Inclusive Resort" ที่รวมค่าอาหารแบบ International Buffet เครื่องดื่ม และกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงแรมไว้หมดแล้ว เรียกได้ว่าซื้อครั้งเดียวเที่ยวได้แบบชิลสุดชีวิต

เสน่ห์ของ "Club Med" คือความ Friendly และอบอุ่น มาก ๆ พนักงานทุกคนจะคุยกับเราเหมือนเป็นเพื่อนใหม่จากหลายเชื้อชาติ บรรยากาศเลยสดใส รู้สึกไม่เกร็ง และเหมือนมาแฮงเอาต์สบาย ๆ มากกว่าแค่มาเข้าพักแบบโรงแรมทั่วไป

ตัวรีสอร์ตตั้งอยู่ท่ามกลาง "สวนสีเขียว ลำธารไหลผ่าน และทิวเขาที่ล้อมรอบ" บรรยากาศร่มรื่น สงบ และสวยมาก เหมาะกับการพักใจ นอนเล่น เดินช้า ๆ หรือทำกิจกรรมของ Club Med ทั้งวันแบบไม่ต้องออกไปไหนเลย

เพื่อน ๆ คนไหนกำลังมองหาที่พักที่รวมทุกอย่างไว้ในที่เดียว แบบได้ทั้งอาหารดี กิจกรรมเยอะ บรรยากาศยอดเยี่ยม และบริการแบบอบอุ่นมาก ๆ ขอแนะนำให้ลอง "Club Med Lijiang" เลย บอกเลยว่าคุ้มค่าและได้ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนที่พักอื่นแน่นอน

"Jiu Ge Crossing-the-Bridge Rice Noodles" (云堤岸) คือร้านที่ขึ้นชื่อที่สุดในลี่เจียงสำหรับเมนู "Crossing-the-Bridge Rice Noodles" อาหารประจำมณฑลยูนนานที่ต้องลองจริง ๆ เสิร์ฟมาเป็นชุดใหญ่แบบจัดเต็ม โดยจะมี ชามซุปเดือด ๆ แยกออกจากเครื่องต่าง ๆ เช่น เนื้อสไลซ์บาง ผัก เห็ด ไข่ดิบ และเส้นก๋วยเตี๋ยวข้าวสีขาวนุ่ม จุดเด่นอยู่ที่ช่วงเวลาที่เราเริ่ม "ประกอบชาม" เอง พอค่อย ๆ ใส่เครื่องทั้งหมดลงไปในซุปที่ร้อนจัด เนื้อกับไข่จะ สุกแบบพอดีเป๊ะในไม่กี่วินาที ส่วนเส้นก็ดูดรสชาติซุปเข้าไปเต็ม ๆ ทำให้รสชาติกลมกล่อมและหอมมาก

ร้าน "Jiu Ge" จะขายเมนูนี้เมนูเดียวเลย แต่จะแตกต่างกันด้วยชนิดของซุปและเนื้อสัตว์ให้เลือกตามชอบ เป็นร้านที่คนท้องถิ่นเข้ามาทานกันจริงจัง และเป็นหนึ่งในร้านที่นักท่องเที่ยวตามรอยกันเยอะที่สุดในลี่เจียงด้วยค่ะ ใครมาเที่ยวลี่เจียงแล้วอยากลองอาหารยูนนานแบบต้นตำรับ จานนี้คือ "ต้องลอง"

"Sanqing Hall" (三清殿) เป็นหนึ่งในอาคารโบราณที่โดดเด่นที่สุดภายใน "Lijiang Ancient Town" เพราะท่ามกลางบ้านเรือนไม้แบบจีนที่เรียงรายกันไป อาคารหลังนี้จะมีสถาปัตยกรรมที่แตกต่างออกไปอย่างเห็นได้ชัด แต่เดิมที่นี่เป็น คฤหาสน์ของตระกูลผู้ปกครองในอดีต จึงมีความโอ่อ่าและประณีตมากกว่าบ้านทั่วไป ตัวอาคารใช้โทน สีแดง - ฟ้า ที่ตัดกันอย่างสวยงาม พร้อมลวดลายตกแต่งแบบดั้งเดิม และประดับดอกไม้เพิ่มความละมุนให้ภาพรวมดูน่ามองขึ้นอีกหลายเท่า

เดินผ่านแล้วจะรู้สึกได้เลยว่าที่นี่คืออาคารที่มีเรื่องราวและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของลี่เจียงจริง ๆ ใครชอบถ่ายรูปหรือชมงานสถาปัตยกรรมเก่า ๆ แนะนำให้แวะ เป็นอีกหนึ่งมุมเงียบ ๆ แต่มีเสน่ห์มากในเมืองโบราณลี่เจียง

"Sanqing Pavilion" (三清殿) เป็นจุดไฮไลต์สำคัญภายใน Mu Palace หรือจวนโบราณของตระกูล "Mu" ผู้ปกครองลี่เจียงในสมัยราชวงศ์หยวน-หมิง-ชิง ซึ่งพื้นที่ของจวนนี้กว้างใหญ่มาก และเต็มไปด้วยอาคารเก่าแก่ที่ถูกอนุรักษ์ไว้อย่างดี ในบรรดาอาคารทั้งหมด ชอบที่สุดคือ "Sanqing Pavilion" เพราะตั้งอยู่บนเนินเขาสูง ทำให้กลายเป็นจุดชมวิวที่มองเห็นความโอ่อ่าและความยิ่งใหญ่ของ "Mu Palace" ได้แบบไกลสุดสายตา มุมสูงนี้จะทำให้เห็นการจัดวางอาคารตามแบบผังจีนโบราณอย่างชัดเจน เรียกได้ว่าเป็นจุดที่ทั้งสวยและทรงพลังมากจริง ๆ

ตัวอาคารเองก็สวยงามไม่แพ้กัน เป็นศาลาไม้สไตล์โบราณแบบ "three-eaved pointed-roof pavilion" (ศาลาหลังคาสามชั้น) ที่มีรายละเอียดประณีต ใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาของลัทธิเต๋า และประดิษฐานเทพเจ้าสำคัญไว้ภายใน

บรรยากาศตรงนี้ค่อนข้างเงียบสงบ ลมพัดเย็น ๆ มุมกว้างสวยมาก เหมาะกับการชมวิวและพักสายตาจากความคึกคักของเมืองเก่า เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่หนูประทับใจมากจนอยากให้เพื่อน ๆ แวะขึ้นมาชมด้วยตัวเอง

"Yun Ti Yang" (云堤岸) เป็นคาเฟ่ที่ได้รับความนิยมสูงมากในลี่เจียงช่วงไม่กี่ปีมานี้ ใครชอบบรรยากาศช้า ๆ ฟีลธรรมชาติแบบอิ่มใจบอกเลยว่าต้องมา เพราะร้านตั้งอยู่กลางสวนสีเขียวร่มรื่น ที่พื้นที่จริงกว้างกว่าที่เห็นในรูปเยอะมาก และรอบตัวก็ประดับด้วยสวนดอกไม้หลากสี จัดวางอย่างสวยงามจนเหมือนเดินอยู่ในสวนลับในนิทาน

ไฮไลต์ที่ทุกคนต้องไม่พลาดคือ "มุมถ่ายรูปบนหลังคาไม้" ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ประจำร้าน ตอนปีนขึ้นไปจะรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในฉากหนังจีนโบราณ และพอขึ้นไปถึงด้านบนก็จะเจอวิวระดับ "ปังแบบไม่มีอะไรมาบัง" เพราะมองเห็น "Jade Dragon Snow Mountain" เด่นอยู่ไกล ๆ แถมถ้าวันไหนมีหมอกบาง ๆ ลอยผ่าน ฉากหลังจะยิ่งโรแมนติกเหมือนเทพนิยายเลย

เป็นคาเฟ่ที่บรรยากาศดีมาก ทุกมุมสวย ถ่ายรูปง่าย ได้ฟีลลี่เจียงแบบเต็ม ๆ เหมาะกับการแวะมานั่งพัก จิบเครื่องดื่มเบา ๆ และเก็บภาพแบบสุดปังกลับบ้าน

"Blue Moon Valley" (蓝月谷) ตั้งอยู่ภายในเขต "ภูเขาหิมะมังกรหยก" (Jade Dragon Snow Mountain) และถือเป็นหนึ่งในจุดไฮไลต์ที่ทุกคนต้องแวะเมื่อมาเที่ยวลี่เจียง เพราะที่นี่สวยเหมือนหลุดออกมาจากโปสการ์ด น้ำในหุบเขาจะเป็นสีฟ้าใสอมเทา คล้ายน้ำนมจาง ๆ ตัดกับฉากหลังเป็นภูเขาหิมะสูงตระหง่าน ทำให้วิวโดยรวมอลังการมาก

ชื่อ "Blue Moon Valley" มาจากสีของน้ำที่เมื่อมองจากมุมสูง จะมีโทนฟ้าอมเทารูปทรงคล้ายพระจันทร์เสี้ยว สีที่เห็นสวยแปลกตามาจาก ตะกอนแร่ธรรมชาติ ในบริเวณนี้ ทำให้น้ำใสและมีเฉดฟ้าเปลี่ยนไปตามแสงแดดของแต่ละวัน

จุดที่คนนิยมถ่ายรูปมากที่สุดคือ "บันไดน้ำตกหลายชั้น" ที่ไหลลดหลั่นลงมาต่อเนื่อง พอแสงดี ๆ น้ำจะใสจนสามารถสะท้อนวิวภูเขาหิมะด้านหลังได้แบบสวยล้ำ เหมือนภาพวาดเลย นอกจากนี้ยังมี จามรีตัวอ้วนสุดน่ารัก ให้ถ่ายรูปคู่ด้วย เพิ่มความเป็นแลนด์มาร์กแบบลี่เจียงแท้ ๆ ใครมาที่นี่บอกเลยว่าห้ามพลาดเด็ดขาด

สำหรับทริปนี้ "Lijiang Travel Guide 2025" พาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวรับลมหนาว ท่ามกลางความอลังการของภูเขาหิมะ เมืองโบราณจีนอุทยานแห่งชาติระดับ 5A แบบครบทุกมุมที่ควรไป โดยค่าใช้จ่ายทั้งหมดในทริปนี้ หนูใช้ผ่าน "บัตรเครดิตกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ วีซ่า แพลทินัม" แบบจริงทุกบิล

ใครอ่านรีวิวแล้วรู้สึกว่า บัตรนี้แหละที่ควรมีเวลา "เที่ยวต่างประเทศ" ก็ขอบอกเลยว่า แค่มีรายได้ประจำ 15,000 บาทขึ้นไป ก็สามารถ "สมัครบัตรเครดิตออนไลน์" ได้แล้ว แถมตอนนี้มี โปรโมชั่นต้อนรับสมาชิกใหม่ อีกด้วย สามารถสมัครด้วยตนเองผ่านแอป UCHOOSE สมัครง่าย อนุมัติไว พร้อมติดตามสถานะผ่านแอปได้เลย เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการความรวดเร็ว
ถ้าชอบโปรโมชั่นดี ๆ เวลาเที่ยว อยากได้สิทธิประโยชน์คุ้ม ๆ ทั้งจองตั๋ว-จองที่พัก-รูดใช้ต่างประเทศ ก็อย่าลืมใช้จ่ายผ่าน "บัตรเครดิตกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ วีซ่า แพลทินัม" เพราะสามารถเปลี่ยนยอดรูดเต็มเป็นการผ่อนชำระ "0% นาน 3 เดือน*" แบบ Smart ทุกการใช้ง่ายๆ เพียงเลือกยอดที่ต้องการผ่อนผ่านแอป UCHOOSE ได้ด้วยตนเอง เพิ่มเติมคลิก และยังได้ "Cash Back" เงินคืนทุกเดือนแบบคุ้มๆ ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์เลย รับรองว่าคุ้มจริง คุ้มแบบสายเที่ยวต้องมีติดกระเป๋า
ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี
4 ม.ค. 2025
151176
7 ส.ค. 2025
137993
1 ม.ค. 2025
103002
21 มิ.ย. 2024
316332
3 ก.ค. 2024
181784
4 ม.ค. 2025
151176