FirstChoice > Lifestyle > วิธีเลือกซื้อแอร์แบบไหนดี ถอยแอร์เครื่องใหม่ แบบเสียตังค์แต่ไม่เสียอาการ

วิธีเลือกซื้อแอร์แบบไหนดี ถอยแอร์เครื่องใหม่ แบบเสียตังค์แต่ไม่เสียอาการ

Editor’sPick

4 มี.ค. 2021

1 นาที

วิธีเลือกซื้อแอร์แบบไหนดี ถอยแอร์เครื่องใหม่ แบบเสียตังค์แต่ไม่เสียอาการ

Editor’sPick

4 มี.ค. 2021

1 นาที

เผลอแป๊บเดียวหน้าร้อนก็วนกลับมาหาเราอีกแล้ว หลายคนอาจจะบอกว่าทุกวัน ก็คือหน้าร้อน เพราะอากาศเมืองไทยนั้นแสนจะร้อน แต่อากาศร้อนฤดูไหนก็คงไม่โหดร้ายเท่า ฤดูร้อนช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายนเป็นแน่ ซึ่งนอกจากต้องเตรียมตัว เตรียมร่างกาย และเตรียมใจให้พร้อมแล้ว สิ่งสำคัญที่ต้อง เตรียมอีกอย่างคือ เครื่องปรับอากาศ

ทำไมต้องเตรียมแอร์ด้วยละ ในเมื่อเราก็เปิดใช้อยู่ทุกวัน แต่คุณทราบไหมว่า? หน้าร้อนแอร์จะต้องทำงานหนักกว่าปกติหลายเท่า จึงควรดูแลให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน สามารถให้ความเย็นได้เต็มกำลัง และที่สำคัญต้องช่วยประหยัดค่าไฟได้ด้วย

ตรวจเช็กแอร์เบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง

สิ่งที่เราควรทำเป็นประจำ คือการดูแลรักษาเครื่องปรับอากาศ เพื่อให้มีอายุการใช้งานยาวนาน โดยสามารถทำความสะอาดและตรวจเช็กเบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง

  • ล้างทำความสะอาดไส้กรองและแผ่นกรองเป็นประจำ ทุก 2 - 3 อาทิตย์ครั้ง
  • หมั่นติดต่อช่างแอร์ เมื่อถึงกำหนดเติมน้ำยาแอร์ (สังเกตได้จากแผงคอยล์เย็นเริ่มมีน้ำแข็งเกาะ) และล้างแอร์สม่ำเสมอเป็นประจำทุก 6 เดือน
  • ทำการซ่อมบำรุงแอร์ทุกครั้ง หากมีอาการผิดปกติ เช่น มีเสียงดัง มีน้ำหยด ก่อนที่ปัญหาจะลุกลาม
  • เพื่อให้แอร์ทำงานเต็มประสิทธิภาพควรปิดห้องให้มิดชิด เพื่อไม่ให้แอร์ทำงานหนักเกินไป
 

ถอยแอร์เครื่องใหม่แบบคุ้ม ๆ

แต่หากคุณใช้แอร์มาเป็นเวลานาน และผ่านการซ่อมบำรุงมาหลายครั้งแล้ว ประสิทธิภาพความเย็นก็ไม่มีแล้ว อาจถึงเวลาต้องเปลี่ยนแอร์เครื่องใหม่ แต่จะเลือกแอร์แบบไหนดีล่ะ? แอร์บ้านยี่ห้อไหนดีสุด?

นอกจากจะต้องดูตามหลักพิจารณาแล้ว ยังมีในเรื่องของโปรโมชั่น ส่วนลด และการผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิต เช่น โปรโมชั่นผ่อนแอร์ กับบัตรเฟิร์สช้อยส์ เข้ามาพิจารณาเป็นอีกหนึ่งส่วนเสริมด้วย จึงจะช่วยให้เราเลือกซื้อแอร์มาได้อย่างคุ้มค่า และประหยัดสุดๆ อีกด้วยค่ะ ซึ่งมีหลักในการพิจารณาเลือกซื้อต่อไปนี้

ขนาด BTU ต้องเหมาะสมกับขนาดห้อง

ขนาด 9,000 BTU          เหมาะกับห้องขนาด 12 - 15 ตารางเมตร
ขนาด 12,000 BTU        เหมาะกับห้องขนาด 16 - 20 ตารางเมตร
ขนาด 18,000 BTU        เหมาะกับห้องขนาด 24 - 30 ตารางเมตร
ขนาด 21,000 BTU        เหมาะกับห้องขนาด 28 - 35 ตารางเมตร
ขนาด 24,000 BTU        เหมาะกับห้องขนาด 32 - 40 ตารางเมตร
ขนาด 25,000 BTU        เหมาะกับห้องขนาด 35 - 44 ตารางเมตร
ขนาด 30,000 BTU        เหมาะกับห้องขนาด 40 - 50 ตารางเมตร
 

มีระบบประหยัดไฟ ช่วยเซฟเงินในกระเป๋า

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า เครื่องปรับอากาศที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 จะเป็นแอร์ที่มีประสิทธิภาพในการช่วยประหยัดไฟฟ้า แต่ก็จะมาพร้อมกับราคาเครื่องปรับอากาศที่สูงกว่ารุ่นทั่วไป นอกจากนั้นก็ควรเลือกแอร์ที่มีค่า EER (ค่าประสิทธิภาพแอร์ในการใช้พลังงาน) หรือ SEER (ค่าประสิทธิภาพการใช้พลังงานตามฤดูกาลของเครื่องปรับอากาศ) สูง จะทำให้กินไฟน้อยนั่นเอง แต่ก่อนจะเลือกซื้อแอร์ที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ต้องทราบด้วยว่า ปัจจุบันการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้กำหนดฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ไว้คือ

  • เบอร์ 5 ติดดาว 1 ดาว
  • เบอร์ 5 ติดดาว 2 ดาว
  • เบอร์ 5 ติดดาว 3 ดาว

โดยจำนวนดาวยิ่งมาก ยิ่งประหยัดไฟมากขึ้น ขณะที่ระบบอินเวอร์เตอร์ (Inverter) ก็เป็นอีกเทคโนโลยีที่ช่วยในการประหยัดไฟ แม้ราคาเครื่องปรับอากาศระบบ Inverter จะมีราคาสูงกว่าระบบทั่วไปก็ตาม

ดีต่อสุขภาพ

การพิจารณาเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศ นอกจากความเหมาะสมกับพื้นที่ห้องพักอาศัย สามารถช่วยประหยัดพลังงานและประหยัดค่าไฟแล้ว ยังควรพิจารณาถึงสุขภาพของผู้อยู่อาศัย โดยพิจารณาจาก ระบบฟอกอากาศ (Air Purifier) เป็นหลัก เพื่อให้ฟอกอากาศที่สะอาดบริสุทธิ์ออกมา ยิ่งปัจจุบันมีไวรัสโคโรนาที่เป็นอันตรายต่อระบบหายใจ การเลือกซื้อแอร์ที่มีระบบป้องกันไวรัส จึงควรนำมาพิจารณาด้วย สิ่งจำเป็นในระบบฟอกอากาศคือ แผ่นกรองอากาศ ที่คอยดักจับฝุ่น ต้องหมั่นเปลี่ยนเมื่อหมดอายุการใช้งาน รวมไปถึงการดับจับฝุ่นละอองในอากาศ ก็เป็นสิ่งที่ควรมีในระบบฟอกอากาศ

หมดกังวลเรื่องราคาและคุณภาพเมื่อต้องเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศเครื่องใหม่ เพราะเครื่องปรับอากาศ DAIKIN โดนใจทุกฟังก์ชัน สะอาด ช่วยขจัดฝุ่น PM 2.5 และประหยัด ด้วยฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 สูงสุด 3 ดาว แถมยังได้ผ่อนแบบยาว ๆ ไร้ดอกเบี้ย กับบัตรเครดิตกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ โปรโมชั่นพิเศษ ผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้า แอร์ ทีวี ตู้เย็น เครื่องซักผ้า เครื่องดูดฝุ่น เครื่องฟอกอากาศ แบรนด์ดัง 0% สูงสุด 24 เดือน* พร้อมรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 25,000 บาท* คลิกอ่านเพิ่มเติมโปรโมชั่นผ่อนแอร์  

หน้าร้อนแบบนี้มีบัตรเฟิร์สช้อยส์ไว้ไม่ว่าจะผ่อนแอร์ที่ไหน ยี่ห้ออะไรก็มีแต่คุ้ม !
 

ช่วงโปรดี...บอกต่อ จากเฟิร์สช้อยส์

ผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้า แอร์ ทีวี ตู้เย็น แบรนด์ดัง กับร้านค้าที่ร่วมรายการ ตามเงื่อนไขที่กำหนด ดังนี้

 

ผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้า แอร์ ทีวี ตู้เย็น แบรนด์ดัง 0% สูงสุด 24 เดือน* พร้อมรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 25,000 บาท* และใช้คะแนนแลกรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 12%* เรียนรู้เพิ่มเติม
 

HomePro ผ่อนสินค้าที่โฮมโปรสุดคุ้ม 0% สูงสุด 24 เดือน* พร้อมรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 20,000 บาท* กับบัตรโฮมโปร เฟิร์สช้อยส์ เรียนรู้เพิ่มเติม
 

HomePro ผ่อนเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า 0% นาน 12 เดือน ทั้งร้าน* กับบัตรโฮมโปร เฟิร์สช้อยส์ เรียนรู้เพิ่มเติม
 

Power Buy & Go! Power ผ่อนผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าไอที ทั้งร้าน 0% สูงสุด 15 เดือน* พร้อมรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 25,000 บาท* ที่เพาเวอร์บาย เรียนรู้เพิ่มเติม
 

Lotus's ผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้า 0% สูงสุด 24 เดือน* พร้อมรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 30,000 บาท* เรียนรู้เพิ่มเติม
 

Big C ผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าไอที 0% นานสูงสุด 24 เดือน* พร้อมรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 30,000 บาท* เรียนรู้เพิ่มเติม
 

Makro ผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้า 0% สูงสุด 24 เดือน* พร้อมรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 30,000 บาท* เรียนรู้เพิ่มเติม

บัตรเครดิต : ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี
สินเชื่อส่วนบุคคล : อัตราดอกเบี้ยปกติ 25% ต่อปี, กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้ตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 15% - 25% ต่อปี

 


สมัครบัตรเครดิตเฟิร์สช้อยส์ได้ที่นี่

สมัครบัตรทันที

โปรโมชั่นที่เกี่ยวข้อง

ผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้า แอร์ ทีวี ตู้เย็น แบรนด์ดัง 0% สูงสุด 24 เดือน* พร้อมรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 25,000 บาท*

บทความอื่นๆ เพิ่มเติม

สาขาเฟิร์สช้อยส์

ค้นหาสาขาใกล้บ้านคุณ

บลูพลัส & บลูเมมเบอร์

ข้อมูลที่ควรทราบและคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์
พริวิเลจ บลูพลัส & บลูเมมเบอร์