25 ส.ค. 2025
3 นาที
25 ส.ค. 2025
3 นาที
25 ส.ค. 2025
3 นาที
ในยุคที่ค่าครองชีพสูงขึ้นทุกวัน หลายคนมองหาตัวช่วยทางการเงินที่ทั้ง สะดวก รวดเร็ว และไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน “บัตรกดเงินสด” และ “บัตรเครดิต” จึงกลายเป็นตัวเลือกฉุกเฉิน เพราะสมัครง่าย อนุมัติไว และใช้ได้ทั้งกดเงินสดหรือรูดซื้อสินค้า
แต่หลายคนยังสงสัยว่า...
บัตรกดเงินสดต่างจากบัตรเครดิตอย่างไร?
ถ้ากดเงินสดมาใช้ ต้องเสียดอกเบี้ยเท่าไร?
บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจความแตกต่าง พร้อมวิธีคำนวณดอกเบี้ยแบบเข้าใจง่ายก่อนตัดสินใจใช้
หัวข้อทั้งหมด
1. เปรียบเทียบ “บัตรกดเงินสด” กับ “บัตรเครดิต”
2. วิธีคิดดอกเบี้ยกดเงินสด บัตรกดเงินสด vs บัตรเครดิต คิดอย่างไร? มาดูกัน
3. บัตรเดียวจบ! ทั้งรูด ทั้งกด ทั้งผ่อน
บัตรกดเงินสด คือสินเชื่อวงเงินหมุนเวียนที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินอนุมัติไว้ล่วงหน้า
บัตรเครดิต คือบัตรใช้จ่ายรูดซื้อสินค้าและบริการตามวงเงินที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินได้อนุมัติไว้ล่วงหน้า แต่ก็สามารถกดเงินสดออกมาใช้ได้เช่นกัน ซึ่งดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมในการกดเงินสดจากบัตรเครดิต จะแพงกว่าบัตรกดเงินสด ซึ่งจะมี ค่าธรรมเนียม 3% + VAT 7% ของยอดกดเงิน
ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงิน แบบลดต้นลดดอก เริ่มคิดทันที ตั้งแต่วันที่กดเงินสด
สูตรคำนวณ:
ยอดเงินต้น x อัตราดอกเบี้ยต่อปี x จำนวนวันในแต่ละรอบบัญชี / 365 วัน
ตัวอย่าง: คำนวณในกรณีจ่ายหมด
กดเงินสด 10,000 บาท วันที่ 1 ส.ค. 2568 เช่น
วันสรุปยอดบัญชีทุกวันที่ 10 ของเดือน และวันครบกำหนดชำระเงินทุกวันที่ 1 ของเดือน
= ชำระคืนวันที่ 1 ก.ย. 2568 (31 วัน)
ดอกเบี้ย: 10,000 × 25% × 31 / 365 = 212.33 บาท
ยอดที่ต้องจ่ายคืนรวม = 10,212.33 บาท
หมายเหตุ : แบ่งเป็น 2 กรณี ในการนำจำนวนวันที่เบิกถอนเงินสด มาคิดดอกเบี้ยไม่เหมือนกัน ดังนี้
กรณีจ่ายหมด : นับตั้งแต่วันที่เบิกถอนเงินสด - ก่อนวันชำระเงิน 1 วัน
กรณีจ่ายขั้นต่ำ : นับตั้งแต่วันที่เบิกถอนเงินสด - ก่อนวันสรุปยอดบัญชี 1 วัน
ดอกเบี้ยต่ำกว่าบัตรกดเงินสด (เช่น 16% ต่อปี) แต่จะมี ค่าธรรมเนียมเบิกถอนเงินสดล่วงหน้า 3% + VAT 7%
สูตรคำนวณเหมือนกัน แต่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
ตัวอย่าง: กดเงินสด 10,000 บาท วันที่ 1 ส.ค. 2568 เช่น
วันสรุปยอดบัญชีทุกวันที่ 10 ของเดือน และวันครบกำหนดชำระเงินทุกวันที่ 1 ของเดือน
= ชำระคืนวันที่ 1 ก.ย. 2568 (31 วัน)
ดอกเบี้ย: 10,000 × 16% × 31 / 365 = 135.89 บาท
ค่าธรรมเนียมเบิกถอนล่วงหน้า 3% : 10,000 × 3% = 300 บาท
VAT 7% จากค่าธรรมเนียม : 300 × 7% = 21 บาท
ยอดที่ต้องจ่ายคืนรวม = 10,456.89 บาท
👉 จะเห็นได้ว่า กดเงินสดจากบัตรเครดิตแพงกว่า เมื่อเรากดเงินสดออกมาใช้ในจำนวนไม่มากนัก เช่น จ่ายค่าซ่อมรถ 5,000 บาท หรือจ่ายค่าเทอม ค่าส่วนกลางหมู่บ้าน ในจำนวน 10,000 - 20,000 บาท เนื่องจากมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม แม้อัตราดอกเบี้ยจะต่ำกว่า จึงต้องดูไลฟ์สไตล์การใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเราเป็นหลักด้วย
แต่จะดีกว่าไหม ถ้ามีบัตรเดียวที่ทำได้ทั้งสองอย่าง?
หากไม่อยากถือหลายบัตร บัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ช่วยคุณได้ “บัตรเครดิต + บัตรกดเงินสด + บัตรผ่อนสินค้า” อยู่ในใบเดียว สมัครง่าย อนุมัติไว ผ่านแอป UCHOOSE
มีบัตรนี้ใบเดียว = จัดการทุกเรื่องเงินได้อยู่หมัด!
รายละเอียดสิทธิประโยชน์บัตรเครดิตกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์เพิ่มเติม คลิก
หากต้องการเงินสดฉุกเฉิน → บัตรกดเงินสด อาจตอบโจทย์
หากใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เน้นรูดซื้อสินค้า และใช้สิทธิพิเศษ → บัตรเครดิต อาจเหมาะกว่า
ถ้าอยากได้ความครบจบในบัตรเดียว — เลือกบัตรที่รวมสองฟังก์ชัน
แต่อย่าลืมว่า ไม่ว่าจะใช้บัตรกดเงินสดหรือบัตรเครดิต สิ่งสำคัญที่สุดคือ วินัยทางการเงิน ใช้เท่าที่จำเป็น และชำระคืนตรงเวลา เพื่อไม่ให้ดอกเบี้ยกลายเป็นภาระในอนาคต
บัตรเครดิต : ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี
สินเชื่อส่วนบุคคล : อัตราดอกเบี้ยปกติ 25% ต่อปี, กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้ตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 3% - 25% ต่อปี
First Choice
เขียน
Tag:
ดอกเบี้ยกดเงินสด
ดอกเบี้ยกดเงินสดจากบัตรเครดิต
ดอกเบี้ยบัตรกดเงินสด
บัตรเครดิต
บัตรเครดิตเฟิร์สช้อยส์
บัตรเครดิตกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์
บัตรกดเงินสด
บัตรกดเงินสดเฟิร์สช้อยส์
บัตรกดเงินสดเฟิร์สช้อยส์กดเงินสดได้ไหม
บัตรกดเงินสดเฟิร์สช้อยส์ดอกเบี้ยเท่าไหร่
บัตรกดเงินสดกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์
วิธีคิดดอกเบี้ยบัตรกดเงินสด
สมัครบัตรเครดิต
สมัครบัตรกดเงินสด
21 มิ.ย. 2024
290265
6 พ.ย. 2023
78615
31 พ.ค. 2023
62737
21 มิ.ย. 2024
290265
3 ก.ค. 2024
174453
4 ม.ค. 2025
147562